อยากรวยเชิญทางนี้ แจกสูตรทำไม้ใบด่าง ตอนที่ 2 – Tips & Tricks ในการดูแลไม้ใบด่าง
ต้องเข้าใจก่อนว่าไม้ใบด่างนั้นจะอ่อนแอกว่าไม้ปรกติที่เขียวเต็มใบ (ยกเว้นประเภท Generic Variegation ซึ่งเป็นพันธุ์โดยธรรมชาติ) เนื่องจากมีพื้นผิวที่ไม่มีคลอโรฟิลล์มากและมีส่วนที่มีคลอโรฟิลล์น้อยทำให้ประสิทธิภาพของระบบการสังเคราะห์แสงต่ำกว่าปรกติ ดังนั้นไม่ใบด่างจึงได้รับสารอาหารไม่สูงนัก เติบโตได้ช้า ไม่ค่อยทนแสงแดด และมีภูมิต้านทานต่อโรคและแมลงไม่สูงนัก จึงควรมีการดูแลรักาที่ดี
💡Tips – การเลี้ยงดู
1. วัสดุปลูก – การปลูกในดินหรือวัสดุปลูก จะให้ผลที่ดีกว่าการปลูกในน้ำหรือไฮโดรโปนิกส์ เนื่องจากสารอาหารและไมโครนิวเทรียนส์มีครบเครื่องกว่า หากปลูกในน้ำหรือแบบไฮโดรโปนิกส์ จะต้องมีการใส่สารอาหารหรือปุ๋ยเพิ่มเติม

สนใจสินค้าคลิ๊กที่รูปได้เลยค่ะ
2. ฤดูกาล – ไม้ใบด่างนั้นสามารถปลูกได้ทุกฤดูตลอดปี
3. แสงแดด – เนื่องจากไม้ใบด่างมีส่วนที่มีคลอโรฟิลล์น้อย ไม่ค่อยทนแดด แต่ก็ต้องการแสง แสงที่มากไปจะทำให้ใบไหม้หรือคล้ำได้ และหากแสงน้อยไป อาจเกิดการกลายพันธุ์ย้อนกลับ (อ่านต่อด้านล่าง) การให้แสงจึงขึ้นอยู่กับลักษณะที่เลี้ยง
a. Indoor – หากเลี้ยงไม้ใบด่างในบ้าน เราควรจะตั้งไว้ใกล้กับทางเข้าแสง อาทิ ประตูทางเข้าที่โปร่งแสง ใกล้หน้าต่าง เป็นต้น
b. Outdoor – การเลี้ยงกลางแจ้ง สามารถทำได้ แต่ไม่สามารถให้โดนแสงแดดโดยตรงได้ ควรมีผ้าสแลนกรองแสงสัก 50% บวกลบ ขึ้นอยู่กับต้นไม้แต่ละพันธุ์

4. การให้น้ำ – ไม้ใบด่างชอบน้ำ แต่ในขณะเดียวกันก็ทนแล้งมาก สามารถอดน้ำได้หลายวันเลยทีเดียว ส่วนใหญ่สามารถรดน้ำได้ทุกวัน หรือวันเว้นวันก็ได้ หากน้ำน้อยเกินไปอาจทำให้ใบไหม้หรือใบเหลืองจากแกนได้ ระวังการให้น้ำเกินเป็นสำคัญ และหากปลูกในน้ำ ก็ควรมีการเปลี่ยนน้ำในทุกๆ 10 วัน
5. การเตรียมดินหรือวัสดุปลูก – ควรให้มีโครงสร้างโปร่งระบายน้ำได้ดีอุ้มความชื้นได้ประมาณหนึ่งเพื่อให้รากเดินได้ดี ไม่อมน้ำ ป้องกันการเกิดรากเน่า โดยอาจผสมดินปลูก โคโค่พีท พีทมอส เพอร์ไลท์ เวอร์มิคูไลท์ และปุ๋ยอินทรีย์เช่นมูลไส้เดือนในอัตราส่วน 20%
6. ขนาดกระถาง – ควรเปลี่ยนขนาดกระถางให้เหมาะกับขนาดต้นเสมอ เพื่อป้องกันการเกิด Root Bound หากกระถางเริ่มเล็กไป ใบจะเริ่มเหลืองขึ้น ให้ย้ายลงกระถางใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม
สนใจสินค้าคลิ๊กที่รูปได้เลยค่ะ
7. สารอาหาร หรือปุ๋ย – โดยหลักๆแล้วเราเลี้ยงไม้ใบด่างเพื่อเอาใบ ให้ใบใหญ่ หนา เป็นเงางาม การให้สารไนโตรเจนจะการเร่งใบได้ดี หากใส่ปุ๋ยอินทรีย์สามารถใช้ปุ๋ยมูลวัวนมหรือมูลไส้เดือนได้ ส่วนถ้าใช้ปุ๋ยไนเตรทควรระวังเรื่องใบไหม้ ควรใส่ปุ๋ยทุกๆ 3 เดือน
8. ศัตรูพืช – หากต้องการป้องกันแบบ Preventive ควรใช้ Neem Oil อินเดีย จะช่วยป้องกันแมลงและเคลือบใบให้เงางาม อัตราส่วนผสมคือ 5ml ต่อน้ำลิตรฉีกพ่นทุก 30 วัน

สนใจสินค้าคลิ๊กที่รูปได้เลยค่ะ
9. ใบใหญ่เป็นพุ่ม – ไม้ใบด่างบางชนิดที่เป็นไม้เลื้อยมีรากอากาศอยู่ หากมีที่ยึดเกาะที่มีความชื้นจะเกิดรากชอนไชจากตากิ่งได้ รากที่ออกมาจะช่วยดูดความชื้นป้อนให้และต้นไม้ ยิ่งเกิดรากเยอะจะยิ่งมีความเสถียรในการเติบโตและทนแล้งได้มากขึ้น วัสดุที่ใช้ก็มักจะเป็น โคโค่พีท หรือพวกสแฟกนัมมอส และหากลำต้นยาวมากแล้วให้พับทบ ให้ทำ Soil Layering โดยเราจะเอาส่วนปลายลงดินโดยให้ฝังตากิ่ง 1-2 ข้อลงในดินและให้ปลายสุดโผล่พ้นดินสัก 10ซม. เพื่อให้เกิดรากเพิ่ม Multiple Roots System
สนใจสินค้าคลิ๊กที่รูปได้เลยค่ะ
💡Tricks – เกร็ดน่ารู้
1. การกลายพันธุ์ที่ไม่เสถียร – หากพบการกลายพันธุ์ย้อนกลับ ใบเก่าเริ่มด่างน้อยลง หรือมีสีเขียวเพิ่มขึ้น หรือใบใหม่เป็นสีเขียวเต็มใบ เหตุเกิดมีได้หลายสาเหตุ เช่นร้อนมากไป หรือเย็นเกินไป ก็ทำให้เกิดได้ และส่วนใหญ่ที่พบคือการวางอยู่ในที่อับแสงจนเกินไป ทำให้ไม่สังเคราะห์แสง และเริ่มขาดสารอาหาร ต้นไม้นั้นฉลาด เพื่อให้อยู่รอด จะเพิ่มใบสีเขียวเองอัตโนมัติ เพื่อให้มีคลอโรฟิลล์ช่วยในการสังเคราะห์แสงเพิ่ม หากไม่ช่วยเค้า ต้นไม้นั้นจะเริ่มเป็นสีเขียวมากขึ้นเรื่อยๆ วิธีแก้ไขคือ เอาส่วนที่กลายพันธุ์ย้อนกลับออกก่อนโดยให้ไล่ตามกิ่งใบเขียวลงมาถึงจุดที่เกิดจุดแรกแล้วตัดออก จากนั้นย้ายที่วางใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งที่รับแสงได้มากขึ้นแต่ไม่โดนแสงแดดโดยตรง เพราะอาจะเกิดใบไหม้หรือใบเหลืองได้
2. ไม้ใบด่างโตช้า – เพราะมีคลอโรฟิลล์น้อย ทำให้สังเคราะห์แสงได้น้อย ทำให้ได้รับสารอาหารน้อย หากต้องการให้โตเร็วขึ้น เทคนิคการทำ Multiple Roots System สามารถนำมาใช้อย่างได้ผล
3. ศัตรูพืช – ไม้ใบด่างค่อนข้างอ่อนแอ มีภูมิต้านทานต่ำ หากแมลงลงก็อาจตายได้ง่าย ดังนั้นจึงควรกันไว้ดีกว่าแก้ และหากเกิดเหตุก็ควรดำเนินการแก้ไขในทันที ไม่รอ
4. การขยายพันธุ์ – หากต้องการโคลนนิ่ง กิ่งชำ หรือเพาะเนื้อเยื่อ ควรเลือกส่วนที่มีความด่างประมาณหนึ่ง แต่จะไม่เลือกประเภทขาวทั้งใบ จะทำให้ผลผลิตที่เพาะออกมามีความสำเร็จที่จะด่างสูงและพัฒนาต่อยอดได้ การขยายพันธุ์ทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับประเภทของไม้ใบด่าง
a. ประเภทหน่อ – เช่นกล้วยด่าง อาจใช้วิธีการเพาะเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ผลผลิตจำนวนมากได้
b. ประเภทเถาเลื้อย – Soil Layering จะสะดวก ง่าย ติดรากแน่นอน โดยเราจะเอาส่วนปลายลงดินโดยให้ฝังตากิ่ง 1-2 ข้อลงในดินและให้ปลายสุดโผล่พ้นดินสัก 10ซม. เพื่อให้เกิดรากเพิ่มและตัดส่วนที่ติดรากแล้วไปเพาะเป็นต้นใหม่ ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์

สนใจสินค้าคลิ๊กที่รูปได้เลยค่ะ
c. กิ่งชำ – ใช้ได้ทั่วไปรวมถึงเถาเลื้อย โดยเลือกยอดยาวประมาณ 15ซม.ตัดกิ่งใต้ข้อตากิ่งประมาณ 1ซม.เฉียง 45องศา เหลือใบไว้แล้วนำไปปักชำจะติดได้ง่าย โดยอาจจะชุบส่วนที่ตัดกับแอสไพรินหรือ Rooting Gel เพื่อให้ติดรากได้แน่นอนและเร็วขึ้นก็เป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูง

สนใจสินค้าคลิ๊กที่รูปได้เลยค่ะ
หากพี่ๆสนใจผลิตภัณฑ์ในรูปชิ้นไหน สามารถคลิ๊กไปที่รูปนั้นๆได้เลยนะคะ หรือ หากต้องการดูสินค้าชิ้นอื่น คลิ๊กที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ
https://www.growshopthailand.com/categoryตอนหน้า คงถึงจุดที่ทุกคนรอคอยแล้ว สูตรและวิธีการทำไม้ใบด่างตามแพทเทิร์นต่างๆ