ปลูกเต้นท์ใหญ่เต้นท์เดียวดีจริงหรือ? (สำหรับคนมีพื้นที่เยอะ)

ปลูกเต้นท์ใหญ่เต้นท์เดียวดีจริงหรือ? (สำหรับคนมีพื้นที่เยอะ)

หลายคนสงสัยว่ามีพื้นที่ปลูกเยอะ อยากได้เต้นท์ใหญ่ๆจะได้ปลูกได้เยอะๆ ถามว่าดีไหม? อาจจะไม่ทุกเรื่อง เราลองมาดูกันว่าการแยกเต้นท์ปลูกมีข้อดีอย่างไรกันบ้าง

1. เฉลี่ยการใช้ไฟฟ้า ลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร – หลายๆคนคงไม่เคยนึกถึงเลย คือ การเฉลี่ยการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งสำคัญมากกกกก (ก.ล้านตัว) โดยปรกติไฟบ้านเป็นไฟเฟสเดียว ใช้งานทั้งบ้าน การปลูกพืชในบ้านนั้นยิ่งอยากได้ผลผลิตเยอะ ไฟยิ่งต้องแรง การกินไฟจะค่อนข้างมาก ทั้งไฟปลูกและเครื่องปรับอากาศ การใช้ไฟพร้อมกันทุกจุดนั้นมีความเสี่ยงทำให้สายไฟเกิดความร้อนสูงและอาจละลายได้เป็นสาเหตุการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ง่ายเนื่องจากสายไฟที่มีอยู่เดิมไม่สามารถทนกระแสได้เพียงพอ เกมส์โอเว่อร์กันได้ง่ายๆเลยหล่ะ ฉะนั้นการปลูกแยกเต้นท์จึงช่วยเฉลี่ยการใช้ไฟฟ้าได้ เช่น เต้นท์นึงเปิดไฟกลางวัน สลับอีกเต้นท์นึงเปิดไฟกลางคืน ซึ่งนอกจากช่วยเฉลี่ยการใช้ไฟแล้ว ยังช่วยลดภาระเครื่องปรับอากาศอีกด้วย

2. ประหยัดไฟ ลดโหลดเครื่องปรับอากาศ – ต่อจากข้อที่แล้ว เนื่องจากความร้อนที่เกิดจากไฟปลูกมีปริมาณพอสมควร การเปิดไฟสลับช่วงเวลากันจะช่วยให้เครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนักมาก ยิ่งถ้าเป็นระบบอินเวอเตอร์ละก็ วิ่งกันได้นิ่งๆยาวๆเลย นอกจากจะช่วยยืดอายุให้เครื่องปรับอากาศแล้ว ยังช่วยลดบิลค่าไฟฟ้าลงได้อีกพอสมควรเลยหล่ะ ทั้งนี้จะทำแบบนี้ได้ก็ต้องมีเต้นท์ 2 หลังเพื่อสลับช่วงเวลาการให้ไฟ โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกัน



3.  ให้ผลผลิตสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน – ข้อนี้สำคัญ  การปลูกพืชแบบเน้นผลผลิตนั้นจะเรียกว่า Continuous Harvest โดยสามารถเก็บผลผลิตได้ถี่ตามความต้องการ อยากได้ผลผลิตออกถี่ๆก็เพิ่มเต้นท์เอา

ระยะเวลาในการปลูก สมมุติว่าพืชที่เราปลูกนั้นใช้เวลาต่อรอบคือ 2 เดือน อาจจะทำแยกเต้นท์กัน โดยแต่ละเต้นท์มีความเหลื่อมของเวลาในการปลูกแต่ละเต้นท์เท่ากับ เวลาปลูกต่อรอบ หารด้วยจำนวนเต้นท์ที่มี เช่น

ตัวอย่างที่1        เวลาปลูกต่อรอบ = 2เดือน    จำนวนเต้นท์ที่มี = 2 หลัง 

ความเหลื่อมของเวลาในการปลูกแต่ละเต้นท์ = 2/2 = 1 เดือน  หมายความว่าเราจะได้ผลผลิตออกมาอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ 1 เดือน

ตัวอย่างที่2        เวลาปลูกต่อรอบ = 2เดือน    จำนวนเต้นท์ที่มี = 4 หลัง 

ความเหลื่อมของเวลาในการปลูกแต่ละเต้นท์ = 2/4 = 15 วัน หมายความว่าเราจะได้ผลผลิตออกมาอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ 15 วัน

ถามว่าทำแบบนี้ทำไม? ก็เพื่อให้ได้ผลผลิตออกมาในปริมาณสม่ำเสมอและต่อเนื่องในทุกๆเดือน โดยไม่ต้องรอนานหรือขาดตอนและเนื้องานที่ต้องทำประจำจะถูกเฉลี่ยให้น้อยลง ไม่ใช่ว่างานหนัก 2 เดือน ว่างไม่มีอะไรทำ 2 เดือน


4. กระจายความเสี่ยงหากเกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากโรค เชื้อรา การติดเมล็ด และแมลงศัตรูพืช – เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ หลายคนยังไม่ค่อยเจอกันนัก คือ ปัญหาความเสี่ยงต่างๆจากโรค เชื้อรา การติดเมล็ดจากเกสรไม่พึงประสงค์ และแมลงศัตรูพืช โดยส่วนใหญ่มาจากการปลูกรวมเป็นแปลงใหญ่แปลงเดียว เมื่อเกิดปัญหาก็ติดกันหมด ต้องโค่นทั้งหมดทิ้ง การแยกเต้นท์ปลูก คือการกระจายความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยมากไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ชะล่าใจไม่อยากเปลือง ปรากฏว่าปลูกมาจนจะเก็บเกี่ยวแล้วเกิดเชื้อราต้องโค่นทิ้งทั้งหมด เสียแรง เสียเวลา เสียอารมณ์ ฉะนั้น กันไว้ดีกว่าแก้นะคะ

อ่านต่อ

คลิ้ก คู่มือการเลือกซื้อเต้นท์ปลูก